การสมัครตัดเงินผ่านบัตรเครดิต ธนาคารกสิกรไทย สำหรับผู้ใช้งาน woocommerce

เกริ่นนำ

บทความที่ท่านกำลังจะได้อ่านนี้ ผมเขียนขึ้นมาบนความเข้าใจว่า ท่านกำลังจะมีเว็บไซต์สำหรับขายของออนไลน์หรือมีแล้ว และเว็บไซต์ของท่านถูกสร้างขึ้นมาด้วย WooCommerce ระบบร้านค้าออนไลน์ยอดนิยม

แต่คนที่ไม่ได้ใช้ WooCommerce ก็ยังสามารถอ่านบทความนี้ได้ ก็ยังได้ประโยชน์ในด้านความเข้าใจเรื่องการตัดเงินผ่านบัตรเครดิต บนร้านค้าออนไลน์

การตัดเงินผ่านบัตรเครดิตมันดียังไง

ปัจจุบันที่เรามักจะเห็นกันเกลื่อนในการซื้อสินค้าออนไลน์ คือ โอนเงินผ่านธนาคารแล้วก็แจ้งยอดการโอนเข้ามาทางไลน์หรือทางเฟชบุ๊กหรือผ่านทางฟอร์มที่มีในเว็บ แต่การโอนเงินผ่านธนาคารแบบนี้ มันลำบากที่เราจะต้องมาคอยเช็กว่าเงินเข้าจริงหรือเปล่า ยอดนี้เป็นของคนนี้ ยอดนี้เป็นของคนนั้น ยอดนี้สำหรับออเดอร์นี้โน้น มันค่อนข้างลำบากอยู่ และที่มากไปกว่านั้น การจ่ายเงินด้วยเงินสดนั้น ลูกค้าสามารถซื้อสินค้าได้ด้วยเงินปัจจุบันที่มีอยู่ในกระเป๋าเท่านั้น จะเอาเงินในอนาคตมาใช้ไม่ได้ พอลูกค้ามองเงินในกระเป๋า บางทีเขาก็เลือกที่จะเอาเงินนั้นไปซื้อสินค้าที่จำเป็นก่อน ก่อนที่จะซื้อสินค้าของเราซึ่งจำเป็นน้อยกว่า

นั่นเท่ากับว่าเราเสียโอกาส ได้เงิน

จะเห็นว่า ข้อเสียของเงินสดมันจะยากในการจัดการและใช้ได้แต่เงินปัจจุบันเท่านั้น และพ่อค้าจัดการรายการยาก

ปัญหาข้างต้นจะหมดไป ด้วยการนำเอาระบบจ่ายเงินด้วยบัตรเครดิตเข้ามาใช้งาน การตัดเงินผ่านบัตรเครดิตออนไลน์นั้น มันจะทำให้ระบบร้านค้าของเราเป็นระบบอัตโนมัติเต็มรูปแบบ ลูกค้าเลือกสินค้า ลูกค้าจ่ายเงินด้วยบัตรเครดิต ระบบหลังร้านคุยกับระบบของธนาคารยืนยันการจ่ายเงิน ระบบปรับออเดอร์อัตโนมัติ จบกระบวนการ

จะเห็นว่าแม่ค้าแค่มาเปิดดูระบบหลังบ้านว่ารายการไหนชำระเงินสำเร็จแล้วบ้าง ก็ส่งของตามรายการนั้นๆ แถมบัตรเครดิตนั้นมันเพิ่มอำนาจการซื้อให้กับลูกค้า เราก็ได้รับอานิสงค์ได้เงินจากลูกค้า

จะเห็นว่าข้อดีของระบบตัดเงินผ่านบัตรเครดิตนั้น มีข้อดีคือ

ทำให้ระบบร้านค้าออนไลน์ของเรานั้นเป็นระบบอัตโนมัติเต็มรูปแบบ
ทำให้ลดการติดต่อระหว่างเรากับลูกค้าน้อยลง เรามีเวลาไปทำอย่างอื่นมากขึ้น
เพิ่มอำนาจการซื้อให้ลูกค้า ร้านค้าขยายโอกาสในการขายมากขึ้น
การตรวจสอบรายการซื้อขายง่ายขึ้น เนื่องจากเป็นระบบอัตโนมัติ

การตัดเงินผ่านบัตรเครดิตมันไม่ดียังไง

แน่นอนแหละว่า เมื่อร้านเรามีระบบตัดเงินผ่านบัตรเครดิตที่ดีแล้ว มันก็ต้องมีข้อที่มันไม่ดีกันบ้าง เรามาดูกันว่ามันไม่ดีอย่างไร มันไม่ได้ทำให้เราเสียทรัพย์นะไม่ต้องตกใจ

การได้มาซึ่งระบบตัดเงินผ่านบัตรเครดิตนั้น เราจะต้องไปติดต่อธนาคาร กสิกรไทยก็ได้ครับ เขามีให้ขอ ทีนี้ทางธนาคารเขาก็ไม่ได้ได้ระบบนี้มาฟรีๆ เขาเสียเงินเพื่อพัฒนาขึ้นมา เขาจึงต้องการบางอย่างจากเจ้าของร้านค้า แล้วเขาต้องการอะไรล่ะ

เขาต้องการเงินประกัน เพื่อให้มั่นใจว่าร้านคุณจะไม่โกงลูกค้า ร้านคุณทำมาค้าขายจริงๆจังๆ ซึ่งเงินตรงนี้ เมื่อก่อนเขาขอให้ร้านค้าฝากเงินแบบไม่ถอนจนกว่าจะเลิกร้านจำนวน 1.5 แสน แต่เดี๋ยวนี้ไม่แน่ใจว่าเท่าไรหรือเขาไม่ต้องการแล้ว แนะนำให้โทรคุยกับธนาคารเลยนะครับที่ call-center เขา 02-8888888 บอกเขาไปว่าอยากขอ merchant id หรือ ระบบตัดบัตรเครดิตสำหรับร้านค้าออนไลน์
เขาต้องการหักเงินจากยอดขายของร้านค้าประมาณ 3% ผมถือว่าตรงนี้เป็นเรื่องปกติ
เขาต้องการข้อมูลร้านค้าบางอย่าง ซึ่งอาจจะทำให้เรารู้สึกยุ่งยากนิดหน่อย

3 อย่างนี่แหละครับที่เป็นข้อไม่ดี แต่ถ้าสังเกตจริงๆ จะเห็นว่า มันไม่ใช่ไม่ดีที่ตัวระบบตัดเงิน มันไม่ดีตรงความยุ่งยากตอนขอมากกว่า

การตัดเงินผ่านบัตรเครดิต เราต้องเสียอะไรบ้าง

ธนาคารจะขอค่าระบบ 3% จากยอดขายที่ตัดเงินผ่านบัตร ซึ่งโดยส่วนตัวผมเอง ผมมองว่ามันสมเหตุสมผล และมันไม่ได้แพงมากมายอะไร และกับโอกาสที่เราจะได้เงินมากกว่า ถือว่าคุ้ม แล้วเราเองก็ไม่ได้เป็นคนรับภาระความเสี่ยงจากการที่ลูกค้าจ่ายเงินคืนบัตรเครดิตไม่ไหว นั่นธนาคารเขาเป็นคนรับเอง

มันปลอดภัยต่อร้านค้าแค่ไหน

บางคนอาจจะเข้าใจว่า เมื่อเรามีระบบตัดเงินผ่านบัตรเครดิตหน้าร้านค้าออนไลน์ของเราแล้ว เราจะต้องกังวลเรื่องใครจะมาแฮกบัตรลูกค้า อันนั้นเลิกกังเวลไปได้เลยครับ เพราะว่าระบบการทำงานมันเป็นอย่างนี้ พอลูกค้าเลือกสินค้าเสร็จ แล้วเลือกจ่ายเงินผ่านบัตรเครดิต ระบบร้านค้าของเราจะส่งลูกค้าไปที่หน้าของธนาคาร เพื่อตัดบัตรเครดิต หลังตัดเสร็จธนาคารจึงส่งลูกค้ากลับมาที่หน้าเว็บเรา (ดูเหมือนซับซ้อน แต่งานตรงนี้โปรแกรมเมอร์เขาทำไว้เสร็จแล้ว)

เพราะงั้นการจ่ายเงินจริงๆ มันเกิดที่เว็บธนาคาร ที่เขามีระบบการป้องกันแน่นหนา เราทราบเพียงตัดสำเร็จกับตัดไม่เสร็จ อย่างอื่นเราจะไม่ทราบเลย เพราะงั้นต่อให้มีคนแฮกเว็บเรา คนนั้นก็จะไม่สามารถรู้ข้อมูลบัตรเครดิตลูกค้า เพราะมันไม่ได้เก็บไว้ที่เว็บเรา

สรุปแล้วการตัดเงินผ่านบัตรเครดิต ดีหรือไม่ดี

ความคิดส่วนตัวผมเองผมบอกว่า ดี

การขอ merchant id ยากมั้ย

ผมเรียก merchant id จนติดปาก สำหรับคนทั่วๆไป ก็จะเรียกว่าการขอระบบตัดเงินผ่านบัตรเครดิต การขอนั้นไม่ยากครับ แค่เราเดินไปธนาคาสาขาไหนก็ได้ บอกเขาว่าเราต้องการสมัคร merchant id เขาก็จะเอาเอกสารมาให้กรอก พร้อมทั้งชี้แจงรายละเอียดทุกอย่างให้เราทราบ ไม่ต้องกลัวว่าเขาจะหลอกขายประกันพ่วงเรานะ ไม่ต้องกลัว

อะไรที่ต้องทำ อะไรที่เป็นเงื่อนไข เขาจะชี้แจงหมดเลยอย่างละเอียดครับ ถ้าเงื่อนไขเราไม่ผ่าน เขาก็จะไม่พยายามบังคับให้เราทำ

ถ้าหากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมก่อนเดินไปธนาคาร ก็สามารถโทรได้ที่ 02-8888888 หรือดูในสมัครนี่ก็ได้ https://www.kasikornbank.com/TH/ApplyForServices/ApplyForServiceForm/K_Payment_Gateway_TH_RE09.pdf

การขอ merchant id ใช้เวลาเท่าไร

ทางธนาคารจะใช้เวลาในการพิจารณาค่อนข้างนาน อาจจะ 15 วันหรือมากกว่านั้น เพราะฉะนั้นถ้าคิดว่าอยากจะมีระบบตัดเงินผ่านบัตรเครดิตไว้ประดับเว็บไซต์แล้วละก้อ ติดต่อเสียตั้งแต่เนิ่นๆ จะได้ไม่เสียเวลารอ

หลังจากได้ merchant id มาแล้ว ต้องทำอย่างไรต่อ

หลังจากได้ merchant id มาแล้ว ท่านก็มาซื้อปลักอิน Kasikorn Payment Gateway for WooCommerce ไปติดตั้ง เอา merchant id ที่ได้มา กรอกที่หลังบ้านแล้วบันทึก เพียงเท่านี้ ร้านค้าของท่านก็จะเชื่อมต่อเข้ากับระบบตัดเงินผ่านบัตรเครดิตของ กสิกรอย่างสมบูรณ์

ถ้าหากมีข้อสงสัยเพิ่มเติม สามารถอีเมล์มาสอบถามได้ที่ katapol@gmail.com หรือติดต่อที่ LineID : katapolp